ปิดเทอมนี้ได้ยืมหนังสือจากคุณตามาอ่าน หนังสือเล่มนั้นคือ "ไอน์สไตน์พบ พระพุทธเจ้าเห็น" เป็นหนังสือที่อยากอ่านมานานแล้วค่ะ แต่ว่า ช่วงม.ปลาย นั้นวุ่นวายกับการสอบเรียนต่อ
หน้าปกค่ะ... ออกมานานแล้วนะ ติด Best seller ด้วย
สิ่งที่พระพุทธองค์ได้ค้นพบตั้งแต่ 2500 ปี นั้นเป็นสิ่งที่นักวิทยาศาสตร์ปัจจุบัน พยายามที่จะศึกษา ค้นคว้า แต่หารู้ไม่ว่า พระพุทธองค์ได้รู้มาหมดแล้ว ไอน์สไตน์ สุดยอดอภิมหาอัจฉริยะของโลกผู้ค้นพบทฤษฎีต่างๆ ได้มีโอกาสศึกษาเรื่องราวของพระพุทธศาสนาจากเพื่อนนักเขียนของเขา ไอน์สไตน์ก็ต้องประหลาดใจที่การค้นพบของเขาเป็นเพียงส่วนน้อยนิดของพระพุทธศาสนา ไอน์สไตน์ ได้ยกย่องให้พระพุทธศาสนา เป็น "ศาสนาแห่งจักรวาล" ทำให้มีนักวิทยาศาสตร์จำนวนมากหันมาศึกษาพุทธศาสนา
วิปัสสนากรรมฐาน คือหนทางสู่การหลุดพ้น
พระพุทธองค์ได้กล่าวไว้ว่า....
"ความรู้ต่างๆ ที่ทรงรับรู้มาจากสัพพัญญติญาณนั้นมากมายเหลือเกิน เหมือนใบไม้ทั้งป่า แต่ความรู้ที่จะนำไปสู่ความหลุดพ้นประดุจดังใบไม้ทั้งเพียง 2-3 ใบในกำมือ ความจริงที่รู้มีมากมายแต่เราไม่ได้สอน เพราะความจริงเหล่านั้นไม่เป็นไปเพื่อความเข้าใจจริงอันถ่องแท้ ไม่เป็นไปเพื่อการพ้นทุกข์ ไม่เป็นไปเพื่อจุดมุ่งหมาย คือ นิพพาน"
"ความรู้ต่างๆ ที่ทรงรับรู้มาจากสัพพัญญติญาณนั้นมากมายเหลือเกิน เหมือนใบไม้ทั้งป่า แต่ความรู้ที่จะนำไปสู่ความหลุดพ้นประดุจดังใบไม้ทั้งเพียง 2-3 ใบในกำมือ ความจริงที่รู้มีมากมายแต่เราไม่ได้สอน เพราะความจริงเหล่านั้นไม่เป็นไปเพื่อความเข้าใจจริงอันถ่องแท้ ไม่เป็นไปเพื่อการพ้นทุกข์ ไม่เป็นไปเพื่อจุดมุ่งหมาย คือ นิพพาน"
--- พระพุทธองค์บอกว่า มนุษย์เราเวียนวายตายเกิดมานับไม่ถ้วน กระดูกของแต่ละคนประมาณภูเขา 1 ลูก ---
หนังสือเล่มนี้ทำให้รู้ว่า วิทยาศาสตร์ ไม่ใช่สิ่งที่ถูกต้องที่สุด วิทยาศาสตร์นั้นเป็นเพียงสิ่งที่มนุษย์สมมติขึ้นมา ทุกสิ่งทุกอย่างในโลกนี้้ล้วนเป็นสิ่งสมมติ แม้แต่เวลา ตัวเลขต่างๆ เมื่อตัวเลขเป็นสิ่งสมมติ นักวิทยาสตร์จะใช้ตัวเลขคำนวนพิสูจน์สิ่งที่เป็นจริงได้อย่างไร ....
จริงอยู่ที่วิทยาศาสตร์ทำให้ชีวิตเราสบายขึ้น แต่ก็มีผลกระทบกลับมาเสมอ
วิทยาศาสตร์ค้นคว้าวิจัยสิ่งประดิษฐิ์ใหม่ๆ เพื่อสนองจิตใจมนุษย์ แต่วิทยาศาสตร์ไม่เคยศึกษาแม้แต่น้อยว่า "จิต" ของมนุษย์มีลักษณะอย่างไร เปรียบกับลูกธนู ที่ยิงสะเปะสะปะ คิดว่าซักวันมันคงจะโดน
เมื่อวิทยาศาสตร์ไม่สามารถทำให้มนุษย์ค้นพบกับความสุขที่แท้จริง แต่ก็ไม่ยอมรับว่ามาผิดทาง หลงผิดคิดว่ายังทำไม่ดีพอ ก็พยายามคิดค้นต่อไป เช่น คิดจอภาพที่คมชัดยิ่งขึ้น รถยนต์อัตราเร่งดีขึ้น .... คิดว่ามันคงทำให้มนุษย์มีความสุขมากขึ้น แต่ผลที่ตามมา คือ วิทยาศาสตร์ทำให้จิตใจมนุษย์แย่ลง........
จริงอยู่ที่วิทยาศาสตร์ทำให้ชีวิตเราสบายขึ้น แต่ก็มีผลกระทบกลับมาเสมอ
วิทยาศาสตร์ค้นคว้าวิจัยสิ่งประดิษฐิ์ใหม่ๆ เพื่อสนองจิตใจมนุษย์ แต่วิทยาศาสตร์ไม่เคยศึกษาแม้แต่น้อยว่า "จิต" ของมนุษย์มีลักษณะอย่างไร เปรียบกับลูกธนู ที่ยิงสะเปะสะปะ คิดว่าซักวันมันคงจะโดน
เมื่อวิทยาศาสตร์ไม่สามารถทำให้มนุษย์ค้นพบกับความสุขที่แท้จริง แต่ก็ไม่ยอมรับว่ามาผิดทาง หลงผิดคิดว่ายังทำไม่ดีพอ ก็พยายามคิดค้นต่อไป เช่น คิดจอภาพที่คมชัดยิ่งขึ้น รถยนต์อัตราเร่งดีขึ้น .... คิดว่ามันคงทำให้มนุษย์มีความสุขมากขึ้น แต่ผลที่ตามมา คือ วิทยาศาสตร์ทำให้จิตใจมนุษย์แย่ลง........
หลายๆ สิ่งเราไม่สามารถอธิบายให้คนอื่นเข้าใจได้ รับรู้ได้ เหมือนเรา อยากรู้ต้องปฏิบัติให้ถึงจุดนั้นด้วยตนเอง (ภาวนาปัญญาญาณ)
ไอน์สไตน์ ก็เคยประสบกับปัญหานี้ โดยบอกว่า "ถ้าทฤษฎีสัมมพันธภาพจะมีข้อบอกพร่อง ข้อบกพร่องของมันคือ มันทำให้คนส่วนใหญ่ไม่เข้าใจ และตามมันไม่ทัน"
[ อยากจะเขียนออกมาให้เยอะๆ กว่านี้จังเลยค่ะ แต่ว่าเรียบเรียงเป็นคำพูดออกมาไม่ถูก อยากให้คนที่ยังไม่อ่านลองอ่านดูนะคะ ทำให้เรารู้จักหลายๆ สิ่งที่เราคิดว่ามหัศจรรย์เกินธรรมชาติ]